คูโบต้าเจียงหนองคายร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ศึกษาดูงานคูโบต้าฟาร์ม ตามเจตนารมณ์ร่วมกันในการ “สานพลังสู่ความยั่งยืน NET ZERO EMISSION” แลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรม
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมผู้บริหารบริษัทคูโบต้าเจียงหนองคาย หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและผู้แทนเกษตรกรในจังหวัดหนองคาย ร่วมกับคูโบต้าเจียงหนองคาย เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานคูโบต้าฟาร์ม “สานพลังสู่ความยั่งยืน NET ZERO EMISSION” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตามเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นร่วมกับบริษัทสยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในการดำเนินโครงการ NET ZERO EMISSION หนองคาย หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายใต้แนวคิด “หนองคาย เมืองต้นแบบปลอดการเผา สู่ NET ZERO EMISSION “ เพื่อลดปัญหาที่เกิดจากภาวะโลกร้อน โดยมีนางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้การต้อนรับ ณ อาคารเกษตรชัยพัฒน์ คูโบต้าฟาร์ม ตำบลหนองอิรุณ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัดกล่าวว่า การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนมีความสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและการพัฒนาประเทศ สยามคูโบต้าจึงได้จัดตั้งคูโบต้าฟาร์มเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ พร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มุ่งถ่ายทอดองค์ความรู้ที่แม่นยำมีประสิทธิภาพ โดยได้น้อมนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการดำรงชีวิตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยมาเป็นแนวทางสร้างโซนเกษตรทฤษฎีใหม่ ในการบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยเครื่องจักรกลการเกษตรคูโบต้า และนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนารูปแบบการเกษตรสมัยใหม่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและภาคเกษตรกรรมของไทย ควบคู่ไปกับการลดก๊าซเรือนกระจกจากภาคเกษตร
นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่าปัญหาหมอกควันและการเผาส่งผลกระทบเป็นมุมกว้างต่อระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยหนึ่งในสาเหตุของปัญหาคือการเผาพื้นที่การเกษตร เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่าย ใช้เวลาน้อย สะดวกสบาย และต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะการเผาเศษวัสดุหลังการเก็บเกี่ยว ในเกษตรกรบางรายยังมีความเชื่อเรื่องการเผาว่าง่ายต่อการควบคุมวัชพืชและการเตรียมดิน เป็นแหล่งที่มาของจุดความร้อน เกิดฝุ่นควันที่เห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงหลังเก็บเกี่ยวและช่วงการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งทุกภาคส่วนในจังหวัดหนองคาย ได้ให้ความสำคัญในการลดก๊าซเรือนกระจกภาคเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องร่วมกันสร้างจิตสำนึกให้กับเกษตรกรได้ตระหนักรู้พร้อมทั้งการปรับเปลี่ยนวิถีสู่เกษตรแบบปลอดการเผา จึงที่เป็นโอกาสดีที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้แทนเกษตรกรในจังหวัดหนองคาย ได้มาศึกษาดูงานในครั้งนี้ เพื่อนำวิธีการและองค์ความรู้ไปปรับใช้กับเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อให้หนองคาย “เป็นเมืองต้นแบบปลอดการเผาสู่ NET ZERO EMISSION “ เพื่อลดปัญหาที่เกิดจากภาวะโลกร้อน อย่างยั่งยืน
จากนั้นคณะได้เยี่ยมชมกิจกรรม KUBOTA FARM Tour ซึ่งประกอบด้วย
1. โซนเกษตรแม่นยำข้าวและพืชหลังนา (Precision Rice Farm and Crop Rotation Zone)
2. โซนเกษตรทฤษฎีใหม่ (New Theory Agriculture Zone)
3. โซนยางพารา และปาล์มน้ำมัน (Para Rubber and Oil Palm Zone)
4. โซนระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Construction Zone) และ
5. โซนเกษตรสมัยใหม่พืชไร่ (Modern Field Crop Farm Zone)
ทั้งนี้ คูโบต้าฟาร์ม เป็นฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ของคูโบต้าในภูมิภาคอาเซียน บนเนื้อที่มากกว่า 220 ไร่ โดยใช้นวัตกรรมเกษตรครบวงจรเพื่อยกระดับให้เป็น เกษตรแม่นยำที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและให้ผลลัพธ์คุ้มค่า รวมถึงบริหารจัดการรายได้อย่างยั่งยืนเพื่อนำพาภูมิภาคอาเซียนไปสู่เกษตรยุคใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ